วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

ภาพกิจกรรมสปอร์ตเดือน กุมภาพันธ์ 2558



ภาพกิจกรรมสปอร์ตเดือน กุมภาพันธ์ 2558

      กิจกรรมสปอรต์เป็นส่วนหนึ่งที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญาจะจัด เพื่อให้เด็กๆมีกิจกรรมเเละได้ออกกำลังกายเพื่อ สุขภาพดี จะมีประเภทกีฬาที่มีความเเตกกันไป ขึ้นอยู่กับความพิการของเเต่ละบุคคล เพราะการเล่นกีฬารวมกันนั้น สามารถเกิดความผิดพลาดได้ เพราะจะมีเด็กพิการมาก พิการเเบบปานกลาง เเละพิการน้อย จึงจำเป็นต้องเเยกกันเล่นกีฬา ส่วนกิจกรรมกีฬานั้นเป็นกีฬาพื้นฐานไม่มี ความยากลำบากให้เเก่น้องๆ ทุกครั้งที่มีการจัดกิจกรรมสปอร์ตน้องๆทุกคนมีความสุขมากๆเพราะจะได้ร่วมเเข็งขันกับเพื่อนๆ ต้องการที่จะชนะ และต้องการรางวัลที่เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญาได้จัดเตรียมไว้ ถึงว่าเป็นเเรงบันดาลใจเพื่อของรางวัล กิจกรรมสปอร์ตเดย์เป็นกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เพื่อประโยชน์ของร่างกาย จิตใจ และ เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ของเด็กๆ ภายในกิจกรรมจะมีการรับประทานอาหารเครื่องดื่มเเละขนมต่างๆที่เจ้าหน้าที่จัดให้ เรามาดูภาพกิจกรรมสปอร์ตของน้องๆกันเลยค่ะ^^

เจ้าหน้าที่อธิบายการเล่นกีฬาให้น้องๆฟังค่ะ
น้องๆทุกคนกำลังรอ เพื่อต้องการเล่นกีฬาเเล้วค่ะ
น้องๆมีการวอร์มอัพร่างกาย ก่อนเล่นกีฬาค่ะ (เก่งมากๆ อิอิ)
เจ้าหน้าที่กำลังเชียร์น้องๆค่ะ สู้ๆๆๆๆ
กอดกันเเน่นๆน่ะค่ะ ใกล้ถึงเส้นชัยเเล้วววว เย้ๆๆๆๆๆ
สามัคคีกันน่ะค่ะน้องๆ (น่ารักจังค่ะ)
ดูเหมือนน้องที่อยู่หน้าสุด ลุ้นกับเส้นชัยมาก อิอิอิ ให้กำลังใจค่ะ สู้ๆๆๆ
   
เอาความรู้มาฝากจ้าาา
    กีฬามีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งในด้านสุขภาพ และพลานามัย และด้านจิตใจ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ประชาชนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม นำไปสู่การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ กีฬาถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก จะอาศัยกระบวนการของกีฬา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม เพื่อสร้างเครือข่ายชุมชน ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกในการดำรงชีวิตที่มีคุณธรรม มีวินัย และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ข้อดีของการเล่นกีฬายามว่าง
– พัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา
– สร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะและต่างคณะ
– ส่งเสริมการมีมนุษยสัมพันธ์กับบุคคลอื่นได้ดี
– มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนร่วม
– พัฒนาบุคลิกภาพ
– มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อบุคคลอื่น และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา
– เสริมสร้างการทำงานร่วมกันเป็นทีม
                                  (สุขภาพดีไม่มีขายน่ะจ๊ะ ถ้าอยากได้ต้องออกกำลังกายกันเถิด^____^ )

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

โครงการ สร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาวะเด็กปฐมวัย ออกกำลังกายวันละนิด



วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558

            คณะอาจารย์ และนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฎสวยดุสิต 
จัดโครงการ โครงการ สร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาวะเด็กปฐมวัย ออกกำลังกายวันละนิด โดยบูรณาการกับวิชาปฎิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น โดยเข้าศึกษาดูงานและทำกิจกรรมออกกำลังกายให้เด็กป่วยปฐมวัย ให้เเก่เด็กๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า เรามาดูรูปภาพที่น่าสนใจกันเลยค่ะ



ภาพหมู่คณะอาจารย์ และนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฎสวยดุสิต และน้องๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า 

เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า ให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร

นักศึกษาเข้าไปพบกับน้องๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า 

นักศึกษาให้ความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า(เยี่ยมๆ^^)

นักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์  ช่วยเหลือเเละดูเเลน้องๆ

นักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ ให้น้องๆดื่มนม (น่ารักจังค่ะ)

นักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์และน้องๆออกกำลังกายด้วยกันค่ะ

ภาพกิจกรรมเเสนประทับใจสร้างรอยยิ้มให้กับทุกๆคนค่ะ


     สุขภาพดีคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา สุขภาพดีเป็นสิ่งพรหมลิขิตให้แต่ไม่ทั้งหมด หลายคนไขว่ขว้าหาสุขภาพดี ใช้เงินใช้ทองซื้อทำสปา เข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก ซื้ออาหารลดน้ำหนักมารับประทาน การมีสุขภาพที่ดีต้องอาศัยตัวเองดูแลสุขภาพ ให้เวลากับตัวเองเพียงวันละ 1 ชั่วโมงในการออกกำลังกาย อีก 7 ชั่วโมงในการนอนหลับ และรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ธรรมชาติคงไม่ให้สุขภาพที่ดีแด่คนที่ชอบทำร้ายตัวเองอยู่เรื่อย แม้ว่าจะทราบแล้วว่าสิ่งนั้นไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ สุขภาพไม่สามารถซื้อด้วยเงิน ถึงแม้คุณจะรวยเป็นมหาเศรษฐีหากคุณไม่ดูแลตัวเองให้ดี เงินที่มีอยู่เพียงบรรเทาอาการเท่านั้นหลายท่านคิดว่าการออกกำลังกายเสียเวลา ท่านลองจิตนาการ ถึงภาระงานที่ท่านรับผิดชอบ ในแต่ละวันว่ามีมากน้อยเพียงใด หากท่านไม่ดูแลตัวเองและเกิดโชคร้ายท่านเป็นโรคอัมพาตหรือโรคหัวใจ ภาระที่ท่านว่ามากมายจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย ภาระเหล่านั้นใครจะเป็นคนดูแล และหากโชคร้ายถึงขั้นช่วยตัวเองไม่ได้ ใครจะมาเป็นคนดูแลท่าน ท่านเพียงเสียเวลาวันละประมาณ 1 ชั่วโมงหรือท่านอาจจะใช้เวลาในการดูทีว ีและออกกำลังกายไปด้วยกันซึ่งก็จะทำให้ท่านมีสุขภาพที่ดีขึ้น
(อย่าลืมออกกำลังกายน่ะจ๊ะ ทุกคน ด้วยรักเเละหวังดีน่ะค่ะ^^)

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โครงการ "ปันน้ำใจให้รัก"


วันที่ 23 กุมพาพันธ์ 2558

     ชุมชนต้นกล้าคนดี ได้จัดกิจกรรมโครงการ "ปันน้ำใจให้รัก" ขึ้น โดยจัดนำคณะครูและนักเรียน โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ เข้าเยี่ยมเยียนเด็กๆ พร้อมทั้งบริจาคเงินให้เเก่เด็กๆ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญาเป็นโครงการที่เป็นเเบบอย่างที่ดีให้เเก่เยาวชนเเละสังคม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้เเก่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า เรามาดูรูปภาพกิจกรรมที่น่าสนใจกันเลยคร๊าา

จัดนำคณะครูและนักเรียน โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ เข้าเยี่ยมเยียนเด็กๆ พร้อมทั้งบริจาคเงินให้เเก่เด็กๆ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา

หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา

หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับเด็กพิการ 

นักเรียน โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์มีความสนใจเกี่ยวกับความพิการของน้องๆ

น้องๆนักเรียนระดมความคิดว่าจะช่วยเหลือน้องๆพิการอย่างไร( สุดยอดค่ะน้องๆ อิอิอิ)

เห็นรอยยิ้มน้องๆนักเรียนเเละน้องๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญารู้สึกมีความสุขจังเลยค่ะ^^

     ในปัจจุบันเด็กพิการและเด็กที่ด้อยโอกาส  ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนไม่สามารถดำรงชีวิตได้เท่าเทียมกับผู้อื่น อันเนื่องเกิดจากความพิการตั้งเเต่เกิด จึงไม่สามารถดูเเลตัวเองได้เหมือนกับเด็ก ปกติ การบริจาคให้เเก่น้องๆที่มีความเป็นพิการนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่องให้คนทั่วประเทศได้รับรู้ เพราะเป็นการสร้างความดี และ ได้ ผลบุญ อันใหญ่หลวง การรับบริจาคจากผู้สนใจที่ต้องการบริจาคนั้นสามารถแบ่งออกเป็นหลายช่องทาง เช่น การเป็นจิตอาสาเพื่อจัดโครงการเเละมอบสิ่งของหรือเงินให้เเก่เด็กพิการ เป็นต้น น้องๆทุกคนที่มีความพิการต้องการความช่วยเหลือ จากผู้มีจิตใจ เมตตา น่ะค่ะ ที่สำคัญต้องการกำลังใจจากผู้ที่มาเยี่ยมเยือน ดังนั้นถ้าใครที่สนใจต้องการจะบริจาคไม่ว่าจะเป็น สิ่งของหรือเงิน ก้อสามารถบริจาคได้ที่

       สถานที่ตั้ง เลขที่ 78/9 หมู่ที่ 1 ถนนติวานนท์ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี   รหัสไปรษณีย์ 11120  หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์     0-2583-6815

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

คณะกรรมการลูกเสือ L.A.T.C รุ่นที่ 710-716 สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจเเละสังคมเเห่งชาติจัดโครงการบำเพ็ญประโยชน์



วันที่ 16 กุมพาพันธ์ 2558

     คณะกรรมการลูกเสือ L.A.T.C รุ่นที่  710-716 สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจเเละสังคมเเห่งชาติจัดโครงการบำเพ็ญประโยชน์ โดยจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน และบริจาคสิ่งของพร้อมทั้งได้เข้าเยี่ยมเยือนเด็กๆ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า เรามาดูรูปภาพที่น่าสนใจได้เลยค่ะ
'
คณะกรรมการลูกเสือ L.A.T.C รุ่นที่  710-716บริจาคสิ่งของให้เเก่น้องๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า

คณะกรรมการลูกเสือ L.A.T.C รุ่นที่  710-716ถ่ายรูปหมู่กับน้องๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า

หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า

เจ้าหน้าที่กำลังให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับความพิการของน้องๆ 

น้องๆทุกคนมีกำลังใจ เพราะพี่ๆจากคณะกรรมการลูกเสือ L.A.T.C รุ่นที่  710-716 มาเยี่ยมเยือน

    การบริจาค คือ การแบ่งปันที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นการช่วยเหลือให้เด็กๆด้อยโอกาสได้รับสิ่งขาดแคลน ถึงจะเป็นการแบ่งปันเล็กๆน้อยๆ แต่พวกเราก็มีความสุขมากที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคมและเพื่อน มนุษย์ด้วยกัน ดังนั้นการที่เราบริจาคให้กับเด็กๆผู้ด้อยโอกาสถือว่าเป็นสิ่งที่ดี สามารถสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้เเก่เด็กผู้ขาดโอกาส การบริจาคไม่จำเป็นต้อง เงิน สิ่งของหรืออาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถเลี้ยงชีพให้เเก่น้องๆได้ อยากให้ผู้ที่มีความสนใจอยากบริจาคให้เเก่ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า สามารถโทรไปสอบถามได้ที่ 0-2583-6815 ค่ะ

วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อาสาสมัครจากโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กมูลนิธิสุขภาพไทย

                     วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2558

       อาสาสมัครจากโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในสถานสงเคาระห์ด้วยพลังอาสาสมัคร ของมูลนิธิสุขภาพไทยพร้อมด้วยเด็กเเละเจ้าหนาที่ จำนวน 70 คน ได้ไปทัศนศึกษาชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรีเพื่อเป็นการเรียนรู้สิ่งเเวดล้อมเเละส่งเสริมทักษะในการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างอาสาสมัคร เด็กและเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา เป็นโครงการที่ดีอย่างยิ่งเพื่อให้น้องๆได้รับความสุขเเละ สนุกนาน เป็นการสร้างกำลังใจให้เเก่น้องๆทุกคน  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูน้องๆกันน่ะค่ะ ว่า หน้าตาจะสดใส มากน้อยเพียงใดเมื่อได้ไปเที่ยว ชายหาด เย้ๆๆๆๆๆๆ

อาสาสมัครจากโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กเเละน้องๆทุกคนพร้อมที่จะออกเดินทางไปทัศนศึกษาชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี
ถึงชายหาดบางเเสนเป็นที่เรียบร้อยเเล้วน่ะค่ะ ดูเหมือนน้องอยากเล่นนํ้ามากๆเลยน่ะค่ะ5555
มาถึงชายหาดทั้งที ต้องเล่นให้เต็มที่เลยค่ะ
หลังจากสนุกสนานเเล้ว ขอพักเหนื่อยเเปปหนึ่งค่ะ อิอิ
ต้องติดตามกันต่อไปน่ะค่ะ หลังจากโครงการนี้น้องๆจะไปเที่ยวไหนอีก^^

ไปเที่ยวทะเลให้อะไรได้มากกว่าที่คุณคิด^^
1. แสงแดด   
        ให้คุณประโยชน์หลายอย่างต่อสุขภาพ ที่รู้จักกันดีก็คือเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินดี ซึ่งช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน ซึ่งเราจะได้รับวิตามินดีจากอาหารเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องมาจากแสงแดด
        ดังนั้น ให้ร่างกายได้อาบแสงแดดอุ่น ๆ ยามเช้า (ก่อน 9 โมงเช้า) หรือยามเย็น (หลังสี่โมงเย็น) สัก 10-15 นาที แต่การสัมผัสแสงแดดนอกเหนือเวลานั้น ต้องป้องกันด้วยการทาครีมกันแดด ใส่แว่นตากันแดดใส่เสื้อผ้าที่ปกป้องผิวกายให้มากที่สุด และอยู่ให้ห่างจากพระอาทิตย์ในช่วงที่รังสียูวีแรงที่สุด คือราว 10 โมงเช้าถึงสี่โมงเย็น
2. น้ำทะเล     
       น้ำทะเลมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และพบว่าน้ำทะเลอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินมากมายที่ร่างกายต้องการ และปัจจุบันการเยียวยาสุขภาพในแบบที่เรียกว่า Thalassotherapy มีให้บริการมากมายในสปาในยุโรป  เพื่อได้ใช้ประโยชน์จากน้ำทะเลอย่างเต็มที่ สำหรับการรับประโยชน์จากน้ำทะเลโดยไม่ต้องเข้าสปาราคาแพง เพียงแค่แช่ตัวในน้ำทะเลก็ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากน้ำทะเลเป็นแอสตริงเจนต์ตามธรรมชาติ ช่วยสมานผิว บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ และทำให้แผลหายเร็ว
       อีกวิธีหนึ่งของการใช้ประโยชน์จากน้ำทะเลในการเยียวยาสุขภาพ ก็คือ การหายใจเอากลิ่นอายของน้ำทะเลเข้าไปในจมูก โดยใช้สองมือประสานกันวักน้ำทะเลขึ้นมาจ่อไว้ใต้จมูก และสูดหายใจเข้าลึก ๆ ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยทำความสะอาดไซนัส และเปิดเส้นทางลมให้จมูกโล่งสบาย
3. ทราย       
       เป็นสารขัดผิวตามธรรมชาติ มันจึงเป็นเครื่องมือในการทำความสะอาดผิวที่แสนวิเศษ ทำให้ผิวเปียกด้วยน้ำทะเล แล้วถูทรายบนผิวอย่างเบามือให้ทั่วเรือนร่าง คุณยังสามารถนำกลิ่นอาย และความรู้สึกของทะเลมาสร้างความรู้สึกสงบที่บ้านได้ ด้วยการใช้ทรายในการจัดสวนถาดแต่งบ้าน
4. อากาศริมทะเล  
       การหายใจเอาอากาศสดชื่นริมทะเลเข้าไป ช่วยให้เราผ่อนคลายและรู้จักปล่อยวาง กลิ่นเค็มจาง ๆ ที่ปนอยู่ในอากาศทำให้เรารู้สึกรื่นรมย์ และมีชีวิตชีวาแฝงอยู่ที่ไม่อาจพบได้ในที่อื่นใด หายใจเข้าลึก ๆ แล้วความเครียดจะสลายไป และคุณจะหาวิธีรับมือกับความกดดันได้ดีขึ้น
5. คลายความเครียด  
        แสงอากาศ และคลื่น...ทุกสิ่งที่ริมทะเลล้วนเป็นยาชั้นดีในการผ่อนคลาย ลองใช้ประโยชน์จากสรรพสิ่งต่าง ๆ แห่งท้องทะเลที่แนะนำไว้ข้างต้น มันจะละลายความเครียดและนำคุณกลับสู่ธรรมชาติ ทิ้งแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่บ้าน และอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุดอย่างน้อยก็ปีละสักครั้งเถอะนะค่ะ^^

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ภาพกิจกรรมสปอร์ตเดย์ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา (บ้านเฟื่องฟ้า)


กิจกรรมสปอร์ตเดย์ จะจัดขึ้นให้กับเด็กๆ ภายใน 2 เดือน จะจัด 1 ครั้ง
ซึ่งกิจกรรมสปอร์ตเดย์เป็นกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เพื่อประโยชน์ของร่างกาย จิตใจ และ เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ของเด็กๆภายในกิจกรรมจะมีการรับประทานอาหาร เครื่องดื่มและขนมต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่จัดให้ เพื่อให้น้องๆมีความสุข มีสุขภาพที่ดีขึ้น น้องๆที่อยู่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า จะมีความพิการที่เเตกต่างกันไป เจ้าหน้าที่จึงจัดทำ กิจกรรมและกีฬาที่มีความเหมาะสมตามสภาพร่างกายของน้องๆส่วนใหญ่เป็นกีฬาเเบบง่ายๆ น้องๆสามารถร่วมเล่นได้อย่างสนุกสนานค่ะ เรามาดูภาพกิจกรรมน่ารักๆในการเล่นกีฬาของน้องๆได้เลยค่ะ

ภาพกิจกรรมสปอร์ตเดย์ เดือน มกราคม 2558

เจ้าหน้าที่จะมีการบอกถึงกีฬาต่างๆให้น้องๆรู้ และวิธีการเล่น น้องๆตั้งใจฟังมากเลยค่ะ
ดูน้องคนนี้มีความสุข และสนุกสนานกับการได้เล่นกีฬา (น่ารักมากมาย อิอิ)
น้องๆมีความสามัคคีซึ่งกันเเละกัน ดูหน้าตาน้องๆทุกคนต้องการที่จะชนะ เหมือนจะไม่ยอมกันง่ายๆน่ะค่ะเนี่ย อิอิ
หลังจากเล่นกีฬาเสร็จ ต้องเพิ่มพลังซะหน่อย อิอิ

ประโยชน์ของการเล่นกีฬาการเล่นกีฬาและออกกำลังกายที่พอดีอยู่เสมอ จะมีผลดีต่อร่างกายดังนี้ค่ะ

1. ระบบหมุนเวียนโลหิต กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น หลอด
เลือดมีความยืดหยุ่นตัวดี ชีพจรขณะพักลดลง ซึ่งแสดงถึง
ประสิทธิภาพสำรองของหัวใจดีขึ้นสามารถทำงานได้ดี
2. ระบบหายใจ ถุงลมหด และขยายยืดตัวได้ดี ปอดแข็งแรง
3. ระบบกล้ามเนื้อ แข็งแรง
4. ระบบโครงกระดูก กระดูกข้อต่อแข็งแรง ข้อต่อเคลื่อน
ไหวได้ดี
5. ประโยชน์ทั่วไป
    5.1 ทำให้มีสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจ
    5.2 ทำให้ร่างกายมีสมรรถภาพ ในด้านความทนทาน แข็ง
          แรง อ่อนตัว ว่องไว และการทรงตัวดี สามารถทำงาน
          ต่างๆ ได้มากขึ้น ความเหนื่อยมีน้อยลง กระฉับกระเฉง
         ไม่อ่อนเพลีย
   5.3 มีโอกาสบริหารร่างกายได้ทุกส่วน ช่วยควบคุมน้ำหนัก
         ตัวและทรวดทรง
   5.4 ช่วยลดไขมัน และน้ำตาลในกระแสเลือด
   5.5 นอนหลับสบายลดความตรึงเครียดในสมอง
   5.6 ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ขับถ่ายสบาย ท้องไม่ผูก
   5.7 จิตใจผ่องใส แก้อาการหงอยเหงา เซื่องซึม
   5.8 มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีสติปัญญาและความคิดสร้าง
         สรรค์ที่ดี
(เมื่อรู้ถึงประโยชน์การเล่นกีฬา อยากให้ทุกท่านออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีและทำให้ร่างกายเเข็งเเรง กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษน่ะค่ะ)

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

ข้อมูลเบื้องต้นสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา (บ้านเฟื่องฟ้า)

           



 ประวัติหน่วยงาน
          สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา (บ้านเฟื่องฟ้า) เป็นหน่วยงานของรัฐ รับผิดชอบอุปการะเลี้ยงดูเด็กอ่อนพิการทุกประเภท ทั้งชายและหญิง อายุแรกเกิดถึง7 ปี หรืออาจจะมากกว่านี้หากจำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดู หรือพัฒนาก่อนที่จะย้ายเข้ารับการสงเคราะห์ ในสถานสงเคราะห์เด็กพิการต่างๆ ตามสภาพความพิการต่อไป
         ก่อนตั้งสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา (บ้านเฟื่องฟ้า) กลุ่มผู้เข้ารับการบริการที่เป็นเด็กอ่อนพิการ ได้รับการเลี้ยงดูร่วมกับเด็กอ่อนปกติที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด ต่อมาปัญญาเด็กอ่อนพิการเริ่มมีปริมาณเพิ่มขึ้นทำให้การเลี้ยงดูเด็กอ่อนปกติ ร่วมกับเด็กอ่อนพิการมีความยากยิ่งต่อการให้บริการ เพราะเด็กอ่อนพิการจำเป็นต้องให้การดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพความพิการของเด็กกรมประชาสงเคราะห์ (กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการในปัจจุบัน) จึงได้แยกการปฏิบัติงานเลี้ยงดูเด็กอ่อนพิการ ออกจากสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด โดยยืมอาคารของสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด ชื่ออาคารกรรณิการ์ มาเป็นอาคารนอนของเด็กอ่อนพิการ และใช้เป็นสำนักงานด้วย โดยเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2521 ระยะแรกมีเด็กในความอุปการะประมาณ 30-50 คน ต่อมามีจำนวนเด็กอ่อนพิการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้สร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้นในเนื้อที่ 28 ไร่ 2 งาน 96 ตารางวา

              นิยาม
          ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี คือ หน่วยงานที่ให้บริการฝึกอบรมวิชาชีพแก่ผู้ประสบปัญหาเดือดร้อนทางสังคมให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว รวมถึงเป็นสถานที่รองรับให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาทางด้านสังคมและทางเศรษฐกิจให้ช่วยเหลือตนเองได้
วิสัยทัศน์ :สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา (บ้านเฟื่องฟ้า)ก้าวสู่องค์กรต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กอ่อนพิการ
              พันธกิจ
• ให้การเลี้ยงดู ฟื้นฟูและพัฒนาเด็กพิการอย่างรอบด้าน ให้ช่วยเหลือตนเองได้ตามสภาพความพิการ
• พัฒนาระบบบริหารจัดการและให้บริการให้มีมาตรฐาน
• ส่งเสริมสนับสนุนชุมชนและเครือข่ายในการจัดบริการสวัสดิการสังคมแก่กลุ่มเป้าหมาย
• ส่งเสริมศักยภาพองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
 นโยบาย
นโยบายด้านเด็ก : เด็กพิการในความอุปการะต้องได้รับการเลี้ยงดู ฟื้นฟู และพัฒนาอย่างรอบด้าน (เด็กๆ สดใส)
นโยบายด้านบุคลากร : บุคลากรของหน่วยงานและบุคลากรจากเครือข่ายจะต้องมุ่งทำงานเพื่อเด็ก (ผู้ใหญ่สร้างสรรค์)
นโยบายด้านองค์กร : องค์กรจะต้องมีการพัฒนาตนเองในด้านองค์ความรู้ (มุ่งมั่นพัฒนา)
จึงเป็นนโยบายในการทำงานของหน่วยงานว่า
"เด็กๆ สดใส ผู้ใหญ่สร้างสรรค์ มุ่งมั่นพัฒนา"
หลักปฏิบัติที่ดี
สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการฯ บ้านเฟื่องฟ้า ได้กำหนดหลักปฏิบัติที่ดีที่พึงปฏิบัติที่บุคคลในองค์กรควรยึดถือปฏิบัติ ดังนี้
1. ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้
2. ปฏิบัติงานด้วยความเสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติ
3. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและผู้รับบริการ
4. ทำงานเป็นทีม ไม่ก่อให้เกิดการแตกแยกในองค์กร
5. ยึดเด็กพิการในความอุปการะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการ
6. ให้ความรักความเมตตาต่อเด็กพิการเสมือนเป็นบุตรหลานของตน
7. ปฏิบัติต่อเด็กพิการด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยน ทั้งกิริยา และวาจา
8. เสียสละ อุทิศตน ทุ่มเททำงานเพื่อคนอื่น
9. สร้างสรรค์ผลงาน มุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง
10. ปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กรและทางราชการ