วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

ภาพกิจกรรมสปอร์ตเดือน กุมภาพันธ์ 2558



ภาพกิจกรรมสปอร์ตเดือน กุมภาพันธ์ 2558

      กิจกรรมสปอรต์เป็นส่วนหนึ่งที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญาจะจัด เพื่อให้เด็กๆมีกิจกรรมเเละได้ออกกำลังกายเพื่อ สุขภาพดี จะมีประเภทกีฬาที่มีความเเตกกันไป ขึ้นอยู่กับความพิการของเเต่ละบุคคล เพราะการเล่นกีฬารวมกันนั้น สามารถเกิดความผิดพลาดได้ เพราะจะมีเด็กพิการมาก พิการเเบบปานกลาง เเละพิการน้อย จึงจำเป็นต้องเเยกกันเล่นกีฬา ส่วนกิจกรรมกีฬานั้นเป็นกีฬาพื้นฐานไม่มี ความยากลำบากให้เเก่น้องๆ ทุกครั้งที่มีการจัดกิจกรรมสปอร์ตน้องๆทุกคนมีความสุขมากๆเพราะจะได้ร่วมเเข็งขันกับเพื่อนๆ ต้องการที่จะชนะ และต้องการรางวัลที่เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญาได้จัดเตรียมไว้ ถึงว่าเป็นเเรงบันดาลใจเพื่อของรางวัล กิจกรรมสปอร์ตเดย์เป็นกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เพื่อประโยชน์ของร่างกาย จิตใจ และ เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ของเด็กๆ ภายในกิจกรรมจะมีการรับประทานอาหารเครื่องดื่มเเละขนมต่างๆที่เจ้าหน้าที่จัดให้ เรามาดูภาพกิจกรรมสปอร์ตของน้องๆกันเลยค่ะ^^

เจ้าหน้าที่อธิบายการเล่นกีฬาให้น้องๆฟังค่ะ
น้องๆทุกคนกำลังรอ เพื่อต้องการเล่นกีฬาเเล้วค่ะ
น้องๆมีการวอร์มอัพร่างกาย ก่อนเล่นกีฬาค่ะ (เก่งมากๆ อิอิ)
เจ้าหน้าที่กำลังเชียร์น้องๆค่ะ สู้ๆๆๆๆ
กอดกันเเน่นๆน่ะค่ะ ใกล้ถึงเส้นชัยเเล้วววว เย้ๆๆๆๆๆ
สามัคคีกันน่ะค่ะน้องๆ (น่ารักจังค่ะ)
ดูเหมือนน้องที่อยู่หน้าสุด ลุ้นกับเส้นชัยมาก อิอิอิ ให้กำลังใจค่ะ สู้ๆๆๆ
   
เอาความรู้มาฝากจ้าาา
    กีฬามีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งในด้านสุขภาพ และพลานามัย และด้านจิตใจ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ประชาชนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม นำไปสู่การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ กีฬาถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก จะอาศัยกระบวนการของกีฬา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม เพื่อสร้างเครือข่ายชุมชน ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกในการดำรงชีวิตที่มีคุณธรรม มีวินัย และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ข้อดีของการเล่นกีฬายามว่าง
– พัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา
– สร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะและต่างคณะ
– ส่งเสริมการมีมนุษยสัมพันธ์กับบุคคลอื่นได้ดี
– มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนร่วม
– พัฒนาบุคลิกภาพ
– มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อบุคคลอื่น และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา
– เสริมสร้างการทำงานร่วมกันเป็นทีม
                                  (สุขภาพดีไม่มีขายน่ะจ๊ะ ถ้าอยากได้ต้องออกกำลังกายกันเถิด^____^ )

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

โครงการ สร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาวะเด็กปฐมวัย ออกกำลังกายวันละนิด



วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558

            คณะอาจารย์ และนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฎสวยดุสิต 
จัดโครงการ โครงการ สร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาวะเด็กปฐมวัย ออกกำลังกายวันละนิด โดยบูรณาการกับวิชาปฎิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น โดยเข้าศึกษาดูงานและทำกิจกรรมออกกำลังกายให้เด็กป่วยปฐมวัย ให้เเก่เด็กๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า เรามาดูรูปภาพที่น่าสนใจกันเลยค่ะ



ภาพหมู่คณะอาจารย์ และนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฎสวยดุสิต และน้องๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า 

เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า ให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร

นักศึกษาเข้าไปพบกับน้องๆสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า 

นักศึกษาให้ความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา บ้านเฟื่องฟ้า(เยี่ยมๆ^^)

นักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์  ช่วยเหลือเเละดูเเลน้องๆ

นักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ ให้น้องๆดื่มนม (น่ารักจังค่ะ)

นักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์และน้องๆออกกำลังกายด้วยกันค่ะ

ภาพกิจกรรมเเสนประทับใจสร้างรอยยิ้มให้กับทุกๆคนค่ะ


     สุขภาพดีคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา สุขภาพดีเป็นสิ่งพรหมลิขิตให้แต่ไม่ทั้งหมด หลายคนไขว่ขว้าหาสุขภาพดี ใช้เงินใช้ทองซื้อทำสปา เข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก ซื้ออาหารลดน้ำหนักมารับประทาน การมีสุขภาพที่ดีต้องอาศัยตัวเองดูแลสุขภาพ ให้เวลากับตัวเองเพียงวันละ 1 ชั่วโมงในการออกกำลังกาย อีก 7 ชั่วโมงในการนอนหลับ และรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ธรรมชาติคงไม่ให้สุขภาพที่ดีแด่คนที่ชอบทำร้ายตัวเองอยู่เรื่อย แม้ว่าจะทราบแล้วว่าสิ่งนั้นไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ สุขภาพไม่สามารถซื้อด้วยเงิน ถึงแม้คุณจะรวยเป็นมหาเศรษฐีหากคุณไม่ดูแลตัวเองให้ดี เงินที่มีอยู่เพียงบรรเทาอาการเท่านั้นหลายท่านคิดว่าการออกกำลังกายเสียเวลา ท่านลองจิตนาการ ถึงภาระงานที่ท่านรับผิดชอบ ในแต่ละวันว่ามีมากน้อยเพียงใด หากท่านไม่ดูแลตัวเองและเกิดโชคร้ายท่านเป็นโรคอัมพาตหรือโรคหัวใจ ภาระที่ท่านว่ามากมายจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย ภาระเหล่านั้นใครจะเป็นคนดูแล และหากโชคร้ายถึงขั้นช่วยตัวเองไม่ได้ ใครจะมาเป็นคนดูแลท่าน ท่านเพียงเสียเวลาวันละประมาณ 1 ชั่วโมงหรือท่านอาจจะใช้เวลาในการดูทีว ีและออกกำลังกายไปด้วยกันซึ่งก็จะทำให้ท่านมีสุขภาพที่ดีขึ้น
(อย่าลืมออกกำลังกายน่ะจ๊ะ ทุกคน ด้วยรักเเละหวังดีน่ะค่ะ^^)